The points that Wat Phra Dhammakaya explained to Ecclesiastical Province Governor and DSI Deputy Chief Suriya regarding the concerns of Wat Phra Dhammakaya’s laypeople. As a result, laypeople have their own unanimous decision that they do not allow any searching because they are no longer trust government officer for the following reasons
1. The golden statue Luang Pu Wat Paknam: His Majesty King Maha Vajiralongkorn Bodindradebayavarangkun, the 10th Reign, presided over the gold pouring ceremony to casting of Luang Pu Wat Paknam in 2014. But this has been suspicious as fake gold.
2. Foundation stone laying of the Ubosot: HRH Sirindhorn and HRH Chulabhorn representing Their Majesties the King Rama IX, joined the ceremony. This was sadly accused that the Ubosot was built without asking permission for approval.
3. Over 300 cases in 2 weeks: This is considered to be defaming and Pol Gen Srivara disclosed there will be more cases to come
4. Wat Phra Dhammakaya has been developed by the cooperation of millions of laypeople and from their collective donation. Thus they are the genuine possessors. But government commanded them to leave the temple. If they continue to stay, all electricity, water supply, and provisions will be blocked and may be prosecuted accordingly. This is the attempt to dismiss the owner to get out of their own property despite these laypeople do not obstruct the public road.
5. Ordain to become descendants in Buddhism is not a simple task. It took a long time to have 2,000 monks as of today. To accuse them as fake monks and force to leave the monkhood is totally unacceptable to the lay Buddhist.
6. By the use of Section 44 to search everywhere, every single building, floor, and room, siege 6 gates, seal 15 building, triple search in some building during 16-18 February, in total 3 days, the government officers concluded that they couldn’t find the target person. There was no illegal stuffs or any misconduct. This process was considered end. However, there is another request to search again with the reason that Not thoroughly search YET!
From the above mentioned behavior of the officers, the laypersons are not pleased and can no longer trust the officers.
From the above mentioned reasons, Wat Phra Dhammakaya has described to Ecclesiastical Prathum Thani Province Governor and DSI Deputy Chief Suriya to acknowledge. Thus, the accuse of uncooperative will remain untrue because all mentioned actions are from the agreed decision of devotees.
The fact is that DSI overused their authorities. The original purpose of the search was to arrest Ven. Dhammajayo but ending with expelling monks and all devotees out of temple.
Although the officers claimed that any monks resided in Wat Phra Dhammakaya (with the proof of Monk-Identification-Card) and followers were allowed to stay, it is NOT TRUE. The real mission is to take over Wat Phra Dhammakaya, not to arrest Ven. Dhammajayo. To end the case by asking Ven. Dhammajayo to be present is NOT TRUE because DSI was already aware that Ven. Dhammajayo was not there. This is only excuse to take control Wat Phra Dhammakaya and force to leave monkhood by following someone’s instruction.
DSI claimed that they want to uncover nationwide. May we ask? On what? DSI already searched for Luang Pho in every building but couldn’t find except empty building. There was no valuable thing as imagine. Wat Phra Dhammakaya didn’t have any valuable things. Monks and Novice live simply and economically. This sounded disappointment. But they still believed that there were treasure hidden somewhere. As a matter of fact, there is no such a treasure but they do not believe. They still want to search again and blame all monks and devotee that not obey the law.
Eventually, all the devotees and laypersons cannot accept these behaviors of DSI anymore.
Devotees of Wat Phra Dhammakaya
22 February 2017, 05.20pm.
ประเด็นที่หลวงพ่อทัตตชีโว อธิบายให้ เจ้าคณะจังหวัด และรองสุริยา ถึงความกังวลของญาติโยมจนเป็นเหตุให้สาธุชนมีมติกันเองว่า ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น เนื่องจากไม่ไว้วางใจจากสาเหตุดังต่อไปนี้
๑. ประเด็น รูปเหมือนทองคำ หลวงปู่วัดปากน้ำ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ ทรงเสด็จมาเป็นประธานเททองหล่อรูปเหมือนเอง เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๗ แต่ถูกสงสัยว่าเป็นทองคำเก๊
๒. ประเด็นการวางศิลาฤกษ์พระอุโบสถ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระเทพรัตนฯ และสมเด็จเจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ เสด็จแทนพระองค์ มาในพิธี แต่กลับถูกกล่าวหาว่าสร้างโดยไม่ได้ขออนุญาต
๓. คดีเกิดขึ้น ๓๐๐ กว่าคดี ภายใน ๒ สัปดาห์ ซึ่งถือว่าเป็นการกลั่นแกล้งกัน และพล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้เคยให้สัมภาษณ์ว่าจะมีคดีเพิ่มตามมาอีก
๔. วัดพระธรรมกาย สร้างโดยความร่วมแรงร่วมใจและปัจจัยจากญาติโยม ที่เก็บเล็กผสมน้อยบริจาคกันมา ญาติโยมนับล้านคน จึงเป็นเจ้าของวัดตัวจริง แต่ทางการมาออกประกาศให้ญาติโยมออกจากวัด หากจะอยู่ภายในวัด ก็จะถูกตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดเสบียง และอาจจะถูกดำเนินคดีต่อไป นั่นคือ ไล่เจ้าของวัดออกจากวัดที่ตนเองสร้าง ทั้งๆที่ ญาติโยมเองไม่ได้อยู่ขวางถนนแต่อย่างใด
๕. การบวชพระ สร้างศาสนทายาทแต่ละรูปนั้นไม่ง่าย กว่าจะได้ถึง ๒,๐๐๐ รูป ในปัจจุบัน ต้องใช้เวลานาน แต่กำลังจะถูกยัดข้อหาว่า เป็นพระปลอมและจะถูกจับสึก ญาติโยมก็ยิ่งยอมรับไม่ได้
๖. กรณี ใช้ ม.๔๔ เข้าตรวจค้น ตั้งแต่วันที่ ๑๖-๑๗-๑๘ ก.พ. รวม ๓ วัน ค้นทุกพื้นที่ ทุกอาคาร ทุกชั้น ทุกห้อง ยึด ๖ ประตู , ซีลอายัด ๑๕ อาคาร บางอาคารตรวจซ้ำถึง ๓ ครั้ง และเจ้าหน้าที่สรุปภารกิจเป็นหนังสือระบุว่า ไม่พบเป้าหมาย ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย และไม่พบการกระทำผิด ถือว่า ภารกิจจบแล้ว แต่ก็ยังมาขอค้นอีก โดยให้เหตุผลว่า ยังค้นไม่ครบทุกอาคาร
ด้วยพฤติการณ์ของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวแล้วนี้ ทำให้ญาติโยมไม่พอใจ และไม่ไว้วางใจการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่อีกต่อไป
ทั้งหมดข้างต้นนี้ หลวงพ่อทัตตชีโว ได้อธิบายเหตุผลที่ญาติโยมไม่สบายใจและไม่ไว้วางใจเจ้าหน้าที่ให้กับ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีและรองสุริยา ทราบ ดังนั้นการกล่าวหาว่าหลวงพ่อทัตตชีโว ไม่ให้ความร่วมมือนั้น จึงไม่เป็นความจริง เพราะเหตุผลทั้งหมดดังกล่าว เป็นเหตุผลและมติของญาติโยมกันเองทั้งสิ้น
ความจริงคือ ดีเอสไอใช้อำนาจเกินขอบเขต เพราะการเจรจาแจ้งว่าค้นเพื่อหาหลวงพ่อธัมมชโย แต่กลับบอกว่าต้องให้พระ และญาติโยมออกจากวัด ถึงแม้จะอ้างว่าพระที่มีใบสุทธิสงฆ์ว่าเป็นพระวัดพระธรรมกาย และลูกศิษย์อยู่ได้นั้น ก็ไม่เป็นความจริง เพราะต้องการที่จะยึดวัด ไม่ใช่มาจับหลวงพ่อธัมมชโย ดีเอสไอรู้อยู่แล้วว่าหลวงพ่อธัมมชโยไม่อยู่ ดังนั้นที่บอกว่าให้หลวงพ่อมอบตัวเรื่องก็จบ ก็ไม่เป็นความจริง เพราะดีเอสไอรู้อยู่แล้วว่าท่านไม่อยู่ จึงเอาเป็นข้ออ้างที่จะบุกยึดวัด และสึกพระ เพื่อทำตามคำสั่งของใครบางคน? ที่อ้างว่าต้องให้คนไทยทั้งประเทศรู้ และขอถามว่าให้รู้เรื่องอะไร เพราะดีเอสไอเข้ามาค้นทุกอาคารแล้วไม่พบหลวงพ่อธัมมชโย พบแต่อาคารว่างเปล่า ไม่มีของล้ำค่าใดๆ อย่างที่ตั้งใจ เพราะวัดพระธรรมกายไม่มีทรัพย์สินมีค่าอะไร พระสงฆ์สามเณรเราอยู่อย่างสมถะ ข้าวของเครื่องใช้ฟุ่มเฟือยไม่มี จึงไม่สมปรารถนา แต่ยังเชื่อว่าวัดมีขุมทรัพย์ซ่อนอยู่ จึงต้องการค้นเพื่อให้พบขุมทรัพย์โคมลอยทั้งที่ไม่มี แต่เมื่อทางวัดบอกว่าไม่มี ก็ไม่เชื่อ แถมยังกล่าวหาพระ กล่าวหาคนที่มาปฏิบัติธรรมว่าไม่ถูกต้อง จนทำให้ญาติโยมไม่ยอมรับพฤติการณ์เจ้าหน้าที่อีกต่อไป
คณะศิษย์วัดพระธรรมกาย
๒๒ ก.พ. ๒๕๖๐ เวลา ๑๗.๒๐ น.
Official Statement from the Devotees of Wat Phra Dhammakaya
February 22,2017
The retionale given by DSI to research the temple to arrest Ven.Dhammajayo is not 100% accurate. The main reason is to destroy Wat Phra Dhammakaya, as investigations by DSI intocrimes Ven.Dhammajayo has been accused of were concluded by the courts in 2016. DSI does not have the authority to gather further evidence. DSI's claim that Ve.Dhammajayo must be present is merely an excuse. If DSI cannot locate him, the case would proceed anyways. If in the future, the judge found the case against Mr.Supachai to be without merit, then Ven.Dhammajayo would be innocent. If Mr.Supachai is found guilty, then we have to determine if and how his case is related to Ven. Dhammajyo. For these reasons, the search for Ven. Dhammajayo is not related to the case. DSi's real intention is to dismantle the temple.
Article 44 is being invoked in lieu of the rule of law because no legal retionale exists in the constitution. The order to arrest in unlawful. The actions (of DSI) are unlawful. They've executed a search warrant to locate Ven.Dhammajayo. When he could not be found, They prohibited entry to buildings, and ordered monks and devotees to vacate the temple premise. This is unjust and unlawful.